กฎการใช้ชีวิตเชิงบวกตอนนี้เป็นการวางแผนเพื่อว่า ในการที่จะเดินทางไปข้างหน้ากับรถบัสพลังบวก เราจะไม่เชิญชวนไม่ยินยอมให้คนที่มีพลังงานเชิงลบ หรือคนที่ไม่เห็นด้วยไปกับการเดินทางของเรา
มันเป็นความจริงที่จะต้องรู้ว่า ในโลกนี้มันก็เป็นอย่างที่มันเป็น เราจะเจอคนที่ คิดบวก คิดลบ คนที่คิดเหมือน และคนที่คิดต่าง ฉะนั้นเราจะต้องมีวิธีที่จะหาทางในการที่จะจัดการกับคนเหล่านี้ เราก็ต้องเชื่อในตัวเองว่า ถ้าเราอยากที่จะไปถึงเป้าหมายอย่างประสบความสําเร็จ และมีความสุข เราก็ต้องพยายามอยู่กับคนที่เขาเห็นดีเห็นชอบ แล้วก็มีความคิดเชิงบวกแล้วก็สนับสนุนเรา เราจะได้ไม่ต้องใช้พลังงานเยอะในการที่จะไป จัดการกับสิ่งที่มันต่อต้านกันเส้นทางของเรา ที่เขาเรียกว่ามันไม่ไปด้วยกัน ไม่ไปในทางเดียวกัน
เราอาจจะสงสัยว่า แล้วทําไมต้องทําอย่างนี้ ดูเหมือนจะขัดแย้งกับหัวข้อหรือเปล่าที่ให้ปฏิเสธคนที่เป็นลบออกไปเลย แต่ในความเป็นจริง จะย้ำเตือนกันอีกครั้งว่า ในสังคมนี้มันจะมีคนที่ไม่เห็นด้วยกับเรา คนที่ไม่อยากให้เราสําเร็จ คนที่เขามีปมไปในโลกของเขาเอง เมื่อเราตั้งรับได้ว่าจะมีคนประเภทเหล่านี้อยู่ ฉะนั้นก็ไม่ต้องรู้สึกไม่ดี หรือรู้สึกผิดว่าเราไปตัดสินคนบางคนหรือเปล่า? เราไปตัดสินสถานการณ์บางอย่างหรือเปล่า? คำตอบคือเราต้องตัดสินใจ เพราะชีวิตนี้ ในรถบัสพลังบวกคันนี้ เราเป็นคนควบคุมการเดินทาง เมื่อเราจะต้องพบเจอกับคนแบบนี้อยู่ ให้เข้าใจตรงกันว่ามันจะพบ มันจะมี มันจะเจอ
ในการที่จะฝึกให้มีพลังงานเชิงบวกให้เป็นนิสัย ก็จะต้องฝึกอย่างเป็นประจํา ฝึกอย่างเป็นระบบ เปรียบเทียบให้เห็นเหมือนกับการสร้างกล้ามเนื้อในการออกกําลังกาย การใช้กล้ามเนื้อใหม่ (หรือกล้ามเนื้อส่วนที่เราไม่ค่อยได้ใช้) ในช่วงแรกแรกมันจะเจ็บ เหมืนอนเวลาที่เราออกกําลังกาย
เช่นเดียวกันกับการตัดสินคน การเลือกคนขึ้นมาบนรถบัสเหมือนกัน มันก็จะ แบบว่า โอ๊ย ไม่อยากทํา กลัวเขาเจ็บอะไรเป็นต้น แต่เมื่อฝึกบ่อยๆ กล้ามเนื้อในส่วนเหล่านั้นก็จะแข็งแรงขึ้น ทําให้เราเป็นคนที่ไม่รู้สึกแย่ หรือไม่รู้สึกอึดอัดที่จะต้องทําการตัดสินว่าใครจะมาขึ้นรถบัสกับเรา
สุดท้ายมันจะกลายเป็นเรื่องที่ว่า แรกๆ ที่เราพูดกับคนแล้ว คนอาจจะรู้สึก เราไม่ไนซ์ ไม่ค่อยจะใจดีกับเขา แต่ว่าต่อต่อไปเมื่อเราทําจนเป็นทักษะแล้ว เขาเห็นความชัดเจนของเรา ว่าเราจะพาเขาไปไหน ตอนนั้นแหละค่ะที่คนจะเริ่มขึ้นมากับเราเอง นั่น่คือคนที่ใช่จะอยากเข้ามาหาเราเอง เมื่อเขาเริ่มเห็นจุดยืนของเรา และเข้าใจว่าเราไม่ได้เป็นคนโหดร้ายหรือตัดสินคนอื่น แต่เราเป็นคนที่มีความชัดเจนในเรื่องพลังงานบวก
สรุปได้ว่า ต้องทําบ่อยๆ ทําเป็นประจําให้เหมือนการออกกําลังกายนั่นเอง ทีนี้ถ้าเราทําจนเป็น จนชิน หรือเป็นนิสัยแล้ว มันก็จะกลายเป็นทักษะที่ดี ฉะนั้นก็ไปฝึกไปพร้อมพร้อมกันเลยนะคะ
Comments