top of page
eatloeithailand

หนังสือสร้างนิสัย Essentialism: Chapter 1 the Essentialist

Updated: Feb 4

ท่านอื่นๆ ในวงการแปลหนังสือ ได้ให้ชื่อหนังสือ Essentialism นี้ว่า -คนที่ยึดมั่นในสิ่งสำคัญ-  แต่อ.มานีขอเล่นคำในแบบของรายการจับจิต จับใจไปกับสบายใจเลย สักหน่อย  คือ จะขอเรียกคนกลุ่มนี้ว่า เป็นคนที่  -จงใจไม่ใช่จำใจ-  

เป็นความบังเอิญที่พอดีมากเลยว่า ได้วนกลับมาเขียนถึงเรื่องนี้ ในเตือนมกราคม  ซึ่งเป็นช่วงที่หลายคนมีการตั้งเป้าหมายประจำปี  จริงๆ แล้ว หนังสือเล่มนี้ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องของปฏิภาณปีใหม่  แต่เนื้อหาจะมีประโยชน์มากที่จะนำไปประกอบการตัดสินใจเรื่องแนวทางการดำเนินชีวิตที่จะเริ่มใหม่ในปีนี้  


การเป็นคนเช่นนี้ต้องเป็นคนที่มีวินัย มีระบบ และมีความมุ่งมั่น ที่จะทำในสิ่งที่คิดว่าใช่อย่างเต็มที่

คนจงใจต้องสามารถแยกแยะออกให้ได้ว่า อะไรที่สำคัญๆ แยกออกมาจากความมากและหลากหลาย  ข้อดีคือ เมื่อเราสามารถเอาสิ่งที่ไม่จำเป็นออกแล้ว จะทำให้เราสามารถทำงาน ใช้เวลาและพลังงานไปกับสิ่งที่จำเป็นได้ง่ายขึ้น ทางโล่ง สะดวกขึ้น อยากให้แนวคิดมาช่วยเป็นตัวกระตุ้นให้เราได้คิดว่า 


ปีใหม่นี้เราจะมีการใช้ชีวิตของเรายังไง  วิธีและแนวทางมีหลายด้าน เช่น 

เราเลือกเองไม่ใช่เขามาเลือกเรา
เลือกอะไรที่เรียกว่าความสำเร็จของเรา  
เลือกสิ่งที่คุณค่าและความหมายต่อชีวิต 
เลือกเพราะเรามีความสุขและมีความสนุกในระหว่างทางเดินที่จะไปถึงเป้าหมายนั้น

หนังสือเล่มนี้ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องของการปฏิเสธแต่มันเกี่ยวกับเรื่องของการหยุด  ทบทวน แล้วก็ถามคำถามตัวเองว่าเราได้ลงทุนในเรื่องของเวลา  ในเรื่องของพลังงานได้ถูกต้อง  เหมาะสมแล้วหรือยังบุคลิก ลักษณะนิสัยของคนที่จงใจ หรือคนที่ยึดมั่นในสิ่งสำคัญจะมีหลักจำประจำใจว่า 

 It’s not about how to get more things done; it’s about how to get the right things done -ไม่ทำไปทุกเรื่อง แต่ เลือกทำที่จำเป็นให้สำเร็จ ตรงนี้จึงก็ไม่ได้แปลว่าเราจะต้องทำอะไรน้อยลง หรือปฏิเสธไปหมด แต่เป็นการสร้างเงือนไขให้กับตัวเองว่า  เราจะเลือกทำอย่างไรที่เป็นสิ่งที่ถูกต้องสำหรับชีวิต  
It’s  about living by design not by default  คือ มีชีวิตอยู่ด้วยการออกแบบชีวิตเอง ไม่ใช่ อยู่ไปกับสิ่งถูกจัดมาให้ 

หลักการนี้ฟังดุงายและดีเกินจริง แต่ทำไมคนถึงไม่ทำแบบนี้เพราะ

ความกดดันจากสังคม เช่น ถ้าเราบอกว่าขอคิดดูก่อน หรือยังไม่แน่ใจ หรือ ปฏิเสธไปเลย เราเหมือนกับถูกสังคมกดดันว่าเราเป็นคนที่ไม่เอาไหน ไม่เอาใคร ไม่เอาเพื่อน ไม่เอาสังคม ฯลฯ เรากลายเป็นคนไม่ดีในสายตาคนอื่น  แต่ถ้าเราไม่เคยปฏิเสธใคร ได้ค่ะได้ครับ อะไรๆ ก็โอเคไปหมดเนี่ยมันเหมือนกับว่าเราเป็นคนดี เรารู้สึกดีที่มีคนรักและยอมรับ
มีตัวเลือกมากเกินไปในชีวิตนี้
ความคิดที่ว่า เราต้องได้ทั้งหมด หรือเราทำได้หมดแหละ 

“If you don’t prioritize your life, someone else will”  ถ้าเราไม่ให้ความสำคัญกับตัวเอง หรือให้ลำดับความสำคัญในชีวิตของเรา แล้วละก็ คนอื่นก็จะมาจัดความสำคัญให้กับชีวิตเราเอง 

คำถามทิ้งท้ายคือ   เราจะให้เขามาทำอย่างนั้นกับชีวิตเราไหม? 



Comments


bottom of page