ในตอนนี้จะได้พูดถึงว่าการที่เราจะสร้างการเปลี่ยนแปลงในตัวเอง จะมีองค์ประกอบอะไรบ้าง กล่าวโดยย่อคือนิสัยเล็กๆ พฤติกรรมน้อยๆ ที่เราสะสมไป จะรวมกลายเป็นสิ่งที่เรียกว่าตัวตนของเราหรือที่เขาเขียนไว้ว่า How your habits shapes your identity นั่นเอง
เรื่องของการเปลี่ยนแปลงสามารถแบ่งออกเป็น 3 ขั้นตอน คือการเปลี่ยนแปลงผลลัพธ์ การเปลี่ยนแปลง กระบวนการ และการเปลี่ยนแปลงตัวตน แยกเป็นข้อๆ ได้ประมาณนี้ค่ะ
1. Outcome Change คือลัพธ์ที่อยากเห็นเปลี่ยนแปลง
2. Process Change คือกระบวนการที่อยากเห็นการเปลี่ยนแปลง
3. Identity Change คือตัวตนที่มีความเปลี่ยนแปลง
ตัวอย่างในเรื่องของการเอาผลลัพธ์ของการเปลี่ยนแปลงเป็นตัวตั้ง ก็ เช่น ถ้าอยากลดน้ำหนัก ผลลัพธ์คือน้ำหนักที่ลดลง ถ้าเราอยากจะ เปลี่ยนสไตล์การแต่งตัว ลักษณะการแต่งตัว เช่น สีเสื้อ กางเกง ชุด ก็จะเปลี่ยนไป หรือถ้าเราอยากเปลี่ยนสถานภาพทางการเงิน ก็สามารถวัดผลลัพธ์ได้จากการเปลี่ยนแปลงของรายได้ที่เกิดขึ้น เหล่านี้คือตัวอย่างของ Outcome Change
ต่อมาในการที่ น้ำหนักจะลดลง เสื้อผ้าจะเปลี่ยนไป หรือรายได้จะเพิ่มมากขึ้นนั้น จะมีความเชื่อมโยงกับประเด็นสำคัญข้อที่ 2 คือ Process Change เพราะระบบหรือกระบวนการนั้น เป็นตัวสำคัญที่ก่อให้เกิดผลลัพธ์ขึ้น กลับไปที่ตัวอย่างเรื่องการเปลี่ยนแปลงเรื่องน้ำหนักหรือลดน้ำหนักนั้น ก็จะมีกระบวนการที่เกี่ยวข้อง เช่น การจัดการเรื่องอาหาร และการออกกำลังกายเป็นต้น กรณ๊ตัวอย่างเรื่องของการเปลี่ยนแปลงสไตล์การแต่งตัว กระบวนการที่เกี่ยวข้องก็ไปอาจเป็นคนออกแบบเสื้อผ้า หรือร้านที่เราไปใช้บริการ หรือลักษณะผ้า หรือเพื่อนๆ กลุ่มที่เราอยู่ด้วย หรือในส่วนการเปลี่ยนแปลงในเรื่องของรายได้ก็เช่นกัน กระบวนการที่ทำให้เกิดรายได้นั้น ก็เกี่ยวข้องกับที่มาของรายได้ หรือ การลดค่าใช้จ่ายอย่างนี้เป็นต้น ในส่วนนี้คือตัวอย่างของ Process Change
สิ่งที่เขาได้เน้นย้ำมากที่สุดในหนังสือเล่มนี้ และตอนนี้ คือเรื่องของการเปลี่ยนแปลงความเป็นตัวของตัวเราเอง คือสิ่งที่เป็นใจความหลักว่า เราจะเปลี่ยนไปทำไม เราจะปรับนิสัยแบบนี้ไปเพื่ออะไร ดังนั้น เราต้องมีความชัดเจนตรงนี้ว่า เราอยากเป็นอะไร ไม่อย่างนั้นแล้ว ถ้าเราจะเปลี่ยนเพราะการตามคนอื่นเรื่อยไป เช่น เพราะว่าเพื่อนอยากลดน้ำหนัก เพราะเพื่อนเปลี่ยนสไตล์เสื้อผ้า หรือเพราะเพื่อนมีสตางค์มากขึ้น เราก็อยากผอมลง แต่แตัวแตกต่าง หรือมีเงินมากขึ้นให้เหมือนเพื่อน ซึ่งถ้าเป็นอย่างนั้นเมื่อความต้องการในการเปลี่ยนภายในไม่ใช่ตัวของตัวเรา เราก็ไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นที่จะไปหาวิธีการ หรือกระบวนการต่างๆ มาทำให้เกิดกระบวนการ และเกิดผลลัพธ์ในการเปลี่ยนแปลงให้สำเร็จได้
เมื่อมีความชัดเจนในตัวเอง เราก็จะเสาะแสวงหากระบวนการ เวลาและ ขั้นตอน เพื่อให้เราบรรลุถึงเป้าหมายจนได้ เช่น ถ้าเราคิดว่าเราอยากเป็นนักเขียน ในการที่เราเริ่มเขียนอะไรแค่หนึ่งย่อหน้า หรือแค่หนึ่งหน้า ก็ถือว่าเป็นการขยับใกล้ไปนิดหนึ่งในการเป็นนักเขียน หรือถ้าเราอยากเก่งดนตรีขึ้น แล้วเราเริ่มต้นได้จากการซ้อมกีตาร์ เปียโน ฯลฯ ก็เป็นการเริ่มต้นที่ดี
ดังนั้นเรื่องการเปลี่ยนแปลงตัวตนตาม สิ่งที่เราอยากเป็น จึงเป็นสิ่งที่เราควรจะชัดเจนและมุ่งมั่นให้มากที่สุด นั่นคือถ้าเรามีความเชื่อว่าเราอยากเป็นอะไรในอนาคตที่เป็นตัวเรา สิ่งนี้แหละจะเป็นตัวกำหนดให้เราเปลี่ยนได้ ฉะนั้นเป็นอะไรที่เราต้องเข้าใจในตัวเองก่อน มองที่จะมองเป้าให้ไกล การตั้งเป้าไม่ใช่เรื่องสำคัญที่สุด แต่ความชัดเจนในการตั้งเป้าว่าเราอยากเป็นอะไร ต่างหากที่จะทำให้เราไปถึงจุดนั้นได้
เป็นยังไงบ้างคะ มีสาระดีต่อใจและเอาไปใช้ได้จริงไหม? ในตอนนี้ฝากทุกคนไปคิดดูว่าเราเห็นตัวเราเป็นอย่างไร ที่เป้นตัวตนแท้ๆ ของตัวเอง หาความชัดเจนให้เจอ ก่อนที่จะเริ่มต้นตั้งเป้า ได้ผลอย่างไร ลองมาแลกเปลี่ยน และเล่าสู่กันฟังนะคะ
Comments